วันอาทิตย์ที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

ไอที 24ชั่วโมง iT24Hrs 8กพ54




MS เผยโฉมโลโก้ของ Windows 8 แล้ว

 และแล้วไมโครซอฟท์ (Microsoft) ก็ยกเครื่องโลโกใหม่ให้กับระบบปฏิบัติการรุ่นล่าสุดอย่าง Windows 8 โดยจะเลิกใช้โลโก้ทีมีลักษณะคล้ายธงรูปหน้าต่างสี่ช่องหลากสีสันปลิวไสวที่ใช้มานานนับ 20 ปีด้วยโลโก้ที่เรียบง่ายมากๆ มีแค่หน้าต่างช่องกระจกสี่เหลี่ยมที่มีมุมมองแบบ perspective ซึ่งสีสันของโลโกไม่ได้ยึดติดว่าต้องเป็นสีฟ้าสีเดียว แต่จะปรับเปลี่ยนสีให้เข้ากับภาพธีมที่ผู้ใช้กำหนด

นอกจาก Windows 8 จะมีการยกเครื่องอินเตอร์เฟซใหม่ด้วย Metro UI แล้ว โลโก้ของมันยังถือเป็นการปฏิวัติครั้งสำคัญของ Windows ที่เลิกใช้โลโกแบบเดิมที่ลักษณะคล้ายธงรูปหน้าต่างหลากสีกำลังปลิวสไว โดยโลโก้ใหม่นี้เข้าใจว่า การออกแบบน่าจะได้รับอิทธิพลมาจากอินเตอร์เฟซ Metro ด้วย ซึ่งแทนไอคอนสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ของ Metro UI ด้วยช่องหน้าต่างสี่เหลี่ยมที่ดูเรียบง่าย และล้อไปกับอินเตอร์เฟซใหม่ โดยเป็นผลงานการออกแบบของเอเจนซี่ Pentagram 


แม้โลโก้ใหม่ของ Windows 8 จะใช้สีฟ้า แต่ในการใช้งานบนระบบปฏิบัติการรุ่นใหม่นี้  สีของโลโก้จะเปลียนไปตามข้อกำหนดของผู้ใช้ อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวอ้างว่าโลโก Windows 8 ดูเรียบง่ายคล้ายโลโก้ของ Windows 1 (รูปข้างบนนี้) ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นธงรูปหน้าต่างหลากสีปลิวไสว (แทนการเคลื่อนไหวไม่หยุดนิ่ง) ที่ใช้กับ Windows 3.1 ในปี 1992 ซึ่ง Pentagram เผยถึงไอเดียการออกแบบโลโก้ Windows 8 ว่า โลโก้เดิมไม่ make sene ชื่อของผลิตภัณฑ์คือ Windows แต่ทำไมใช้รูป"ธง"? แล้วคุณผู้อ่านเว็บไซต์ arip ล่ะครับ คิดเห็นอย่างไรกับโลโก้ Windows 8 ชอบกันไหมครับ?


วิวัฒนาการโลโก้ Windows ตั้งแต่ Windows 3.1 มาถึง Windows 7 และ Windows 8 (ซ้ายมือสุด เป็นโลโก Windows Compatible)

Intel เพิ่ม Wi-Fi เข้าไปในชิป Atom

รายงานข่าวล่าสุด อินเทล (Intel) ได้รวมเอาวงจรภาครับส่งสัญญาณ Wi-Fi เข้ากับดูอัลคอร์โพรเซสเซอร์"อะตอม" (Atom) ซึ่งรวมถึงความเป็นไปได้ในอนาคตสำหรับการพัฒนาอุปกรณ์โมบายให้มีความบางลงกว่าเดิม แถมยังยืดอายุการใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ให้สามารถใช้งานได้นานขึ้นอีกด้วย




อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารฝ่ายเทคโนโลยีของอินเทลได้พูดถึงผลของความสำเร็จนี้ว่ามันเป็นเทคโนโลยีการใช้พลังงานที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด และมันยังเป็นการพัฒนาวงจรคลื่นวิทยุดิจิตอลที่คุณสามารถนำกฎของมัวส์มาใช้กับวงจรคลื่นความถี่วิทยุ "Rosepoint" ออกแบบด้วยการติดตั้งชิปดิจิตอล Wi-Fi 2.4GHz อยู่ถัดจากดูอัลคอร์โพรเซสเซอร์ Atom เข้าไปในชิปตัวเดียวกัน อย่างไรก็ตาม การที่ชิปทั้งสองนี้มาอยู่ใกล้กัน อาจส่งผลให้เกิดการกวนของสัญญาณ โดยเฉพาะคลื่นวิทยุที่ตีกันเองจนอาจทำให้เกิดความผิดพลาดของข้อมูลได้ ซึ่งผู้บริหารกล่าวว่า ยิ่งชิปทั้งสองอยู่ใกล้กันมากเท่าไร สัญญาณรบกวนระหว่างชิปทั้งสองก็จะเพิมขึ้นไปด้วย สำหรับปัญหานี้ทาง Intel ได้พัฒนาเทคโนโลยีตัดสัญญาณรบกวน และป้องกันการแผ่ของคลื่นวิทยุเข้าไปใน "Rosepoint" ด้วย ซึ่งมันสามารถป้องกันปัญหาดังกล่าวได้ แม้ชิปที่อยู่ในนั้นจะมีเสาสัญญาณในการทำงานด้วยก็ตาม แต่กว่าที่คุณผู้อ่านเว็บไซต์ arip จะได้ใช้อุปกรณ์โมบายที่มาพร้อมกับ Rosepoint น่าจะเป็นในปี 2015 ครับ

เคสไอโฟน+สเปรย์"พริกไทย"ป้องกันตัว

เคสไอโฟน (iPhone case) ส่วนใหญ่ที่แนะนำคุณผู้อ่านเว็บไซต์ arip ไปก่อนหน้านี้ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นเรื่องของการดีไซน์ทีมีความน่ารักสวยงามไปพร้อมๆ กับความแข็งแรง หรือแม้แต่กันน้ำได้ แต่สำหรับเคสไอโฟนที่นำมาฝากกันวันนี้ มันเป็นเคสฯที่อาจช่วยชีวิตของผู้ใช้ได้ โดยเฉพาะสาวๆ ทีใช้เคสรุ่นนี้เอาตัวรอดปลอดภัยจากคนร้ายที่ไม่หวังดีต่อตัวคุณได้ ???

SmartGuard เป็นเคสไอโฟนจาก Piexon บริษัทในสวิสฯ ที่ได้รับการออกแบบให้มาพร้อมกับ"สเปรย์พริกไทย" (Pepper Spray) ซึ่งสามารถปลดออกจากเคสได้อย่างง่ายดาย เพื่อใช้พ่นสเปรย์พริกไทยยิงใส่หน้าคนร้ายที่พุ่งเข้ามาจู่โจมตุณได้อย่างรวดเร็ว และง่ายดาย ทั้งนี้ SmartGuard จะเป็นเคสพลาสติกแข็ง โดยด้านข้างของมันจะมีช่องใส่กระป๋องสเปรย์พริกไทยขนาดเล็ก และด้านบนจะได้รับการออกแบบป้องกันการกดโดนปุ่มพ่นสเปรย์พริกไทยโดยไม่ตั้งใจ ในขณะที่ด้านคุณสามารถดันมันออกจากเคส เพื่อใช้มือจับ และหันด้านล่างของกระป่อง เพื่อกดปุ่มพ่นสเปรย์พริกไทยใส่หน้าผู้ไม่หวังดีได้อย่างง่ายดาย ทั้งนี้ระยะหวังผลได้ไกลถึง 5 ฟุต (ประมาณ 1.5 เมตร) มีให้เลือก 3 สีคือ ดำ ขาว และชมพู และมีทั้งสำหรับ iPhone 3G/3GS และ iPhone 4/4s สำหรับสาวๆ ที่สนใจสามารถสั่งซื้อได้ที่เว็บไซต์ Sabrered สนนราคาอยู่ที่ 50 เหรียญฯ หรือประมาณ 1,500 บาท หากสเปรย์ใช้หมดไปแล้ว สามารถซื้อแยกได้ในราคา 20 เหรียญฯ หรือประมาณ 600 บาทครับ 


ฟรี!!! 50GB "คลาวด์สตอเรจ"จาก Box

 เชื่อว่า คุณผู้อ่านเว็บไซต์ arip ที่ใช้สมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ตสายพันธุ์ Android ต้องสนใจข่าวนี้อย่างแน่นอน โดยล่าสุด Box ผู้ให้บริการคลาวด์สตอเรจได้เปิดโอกาสให้ผู้ลงทะเบียน (sign up) วันนี้ได้ใช้บริการสตอเรจบนคลาวด์ของทางบริษัทได้ฟรี!!!ทันที 50GB (ทางกองบ.ก.เว็บไซต์ arip ทดลองแล้วได้จริงๆ :D)



สำหรับข้อเสนอพิเศษทางเว็บไซต์จะเปิดให้ 30 วันเท่านั้น เนื่องจากโดยพื้นฐาน Box ไม่ใช่บริการฟรี แต่เพื่อให้ตัวเองได้รับความสนใจจากผู้ใช้ ทางบริษัทจึงได้ตัดสินใจใช้วิธีนี้ในการสร้างกระแส ปัจจุบันกระแสของการใช้สตอเรจคลาวด์กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นบริการ Cloud Drive ของ Amazon และ iCloud ของ Apple หรือ Dropbox ที่ผู้ใช้ส่วนใหญ่นิยมใช้กัน นอกจากนี้ยังมี Drive ของ Google และ SkyDrive ของ Microsoft อีกด้วย ซึ่งรายหลังสุดจะเชื่อมสตอเรจคลาวด์เข้ากับ Windows 8 จะเห็นว่า สมรภูมินี้มีแต่ผู้เล่นรายใหญ่ๆ ทั้งนั้น ดังนั้นการแทรกตัวเองเข้าไปในตลาด (เชื่อมบริการกับผู้ใช้อุปกรณ์โมบาย และคอมพิวเตอร์) จึงไม่ใช่เรื่องง่าย และคงเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ Box ต้องตัดสินใจให้ฟรี 50GB กับผู้ใช้อุปกรร์โมบายสายพันธุ์ Android 



Box ได้อัพเดทแอพฯ ให้ทำงานร่วมกับโอเอสตัวใหม่อย่าง Android 4.0 Ice Cream Sandwich ด้วย ผู้ใช้สามารถคอมเมนต์บนเอกสารต่างๆ ที่เพื่อนๆ แชร์มาให้ หรือการอัพโหลดไฟล์ขึ้นไปเป็นชุด (batch uploading) รวมถึงการกำหนดสิทธิ์ในการเข้าถึงไฟล์ และโฟลเดอร์ต่างๆ ที่แชร์ได้อีกต่างหาก ทั้งนี้ Box มองว่า โอกาสของธุรกิจอยู่ที่ตลาด Android และการเชื่อมกับแพลตฟอร์บริการของ Google คุณผู้อ่านทีสนใจก็หยิบอุปกรณ์โมบายสายพันธุ์ Android ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ตขึนมา แล้วเชื่อมต่อเข้าไปยัง Box.com เพื่อสมัครใช้บริการ+ฟรีสตอเรจ 50GB ได้เลย 

นักวิเคราะห์คาดกูเกิ้ลอาจทำ"แท็บเล็ต"

รายงานข่าวล่าสุด นักวิเคราะห์ฯคาดว่า กูเกิ้ลอาจจะกระโจนเข้าสู่ตลาด"แท็บเล็ต"ที่ใช้แบรนด์ของทางบริษัท โดยคุณสมบัติของแท็บเล็ตทีว่านี้จะมีขนาดหน้าจอ 7 นิ้ว ความละเอียด 1280x800 พิกเซล ซึ่งจะเริ่มผลิตในเดือนเมษายน ศกนี้ และในชุดแรกจะผลิตประมาณ 1.5 -  2 ล้านเครื่อง โดยสเป็กในขั้นต้นนี้ แม้จะดูคล้ายกับ Kindle ของ Amazon แต่จะละเอียดกว่า เพราะ Kindle จะใช้จอละเอียดแค่ 1024x600 พิกเซล และแน่นอนว่า "แท็บเล็ต" ของ Google จะทำงานด้วยระบบปฎิบัติการ Android 4.0 Ice Cream Sandwich ในขณะที่ราคาน่าจะอยู่ที่ประมาณ 199 เหรียญฯ (ประมาณ 6,000 บาท) งานนี้ดูเหมือนตั้งใจจะเจาะยาง Kindle Fire



อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวไม่ได้ยืนยันว่า กูเกิ้ลจะทำตลาด"แท็บเล็ต"อย่างไรกันแน่? แต่ที่แน่ๆ หลังจากที่กูเกิ้ลเป็นเจ้าของโมโตโรลา (Motorola) โดยสมบูรณ์ มันจะมีสิทธิ์ในการเป็นเจ้าของ"แท็บเล็ต"ทันที 3 รุ่นด้วยกันได้แก่ Xoom รุ่น 10.1 นิ้ว Xyboard (Xoom 2) ขนาด 10.1 นิ้ว และ Xyboard ขนาด 8.2 นิ้ว ประเด็นที่น่าแปลกก็คือ นักวิเคราะห์คาดว่า กูเกิ้ลจะออกแท็บเล็ต 7 นิ้ว หรือมองว่า ยังเป็นช่องว่างตลาดที่ขาดอยู่ ในขณะที่ Samsung มีทุกขนาดให้เลือก และต้องการชน Kindle Fire ที่วางอยู่ในตลาด (ไม่ใช่ยอดขาย) ไม่ต่ำกว่า 5.3 ล้านเครื่องในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีที่แล้ว ในขณะยอดขายจริง นักวิเคราะห์คาดว่าประมาณ 5 ล้านเคื่องแล้ว 
ประเด็นที่น่าคิดก็คือ "แท็บเล็ต" ที่มีหน้าจอขนาดเล็กกว่าสามารถจับความสนใจของลูกค้ากลุ่มใหญ่ได้อย่างรวดเร็ว ข่าวลือที่คุณผู้อ่านเว็บไซต์ arip อาจจะพอทราบกันมาบ้างก็คือ แม้แต่ Apple ยังมีข่าวออกมาด้วยว่า กำลังทดสอบ iPad ที่หน้าจอขนาด 7 นิ้ว (ที่จอบส์ปฏิเสธมาตลอดว่า มันไม่เวิร์ก ถ้าจะใช้จริง ผู้ขายตองแถมกระดาษทรายไว้ลูกค้าตะไบนิ้วให้เล็กลง เพื่อใช้งาน...แรงอ่ะ) ซึ่งหากเป็นเรื่องจริง คาดว่า มันจะยังไม่วางตลาดในปีนี้ เพราะคงต้องให้พีใหญ่อย่าง iPad 3 ขายได้สักปีก่อน ซึ่งทำให้กูเกิ้ลยังคงมีเวลาในการทดสอบผลิตภัณฑ์ก่อนที่ iPad รุ่นเล็กของ Apple จะวางตลาด อย่างไรก็ตาม Google ยังไม่ได้แสดงท่าที หรือให้คอมเมนต์ต่อข่าวที่ออกมาแต่อย่างใด